3.1 Interest (Usury ) and Time Value of Money



ภาพพระเยซูขับไล่ นายธนาคาร ผู้ให้กู้ยืมเงินออกจากโบสถ์-------------

Time Value of Money
ดอกเบี้ย และค่าของเงินตามเวลา
ตำรา การเงินธุรกิจ ทุกเล่มต้องว่าด้วย ค่าของเงินตามเวลา Time Value of Money ก่อนที่จะไปว่าเรื่องอื่นๆ
A Dollar today is worth more than a dollar in the future ! “
เป็นคำกล่าวที่ ถือได้ว่า จริงแท้แน่นอน
หรือบางคนอาจบอกว่า เชยจัง มาพูดทำไม ก็รู้ๆอยู่แล้ว แต่ ที่อาจไม่รู้ก็คือ นานมาแล้ว หลายร้อยปี คำพูดนี้ไม่เป็นจริง
ตามที่ทราบดี คำพูดนี้เป็นจริง เพราะเหตุที่ว่า เงิน นอกจากเป็น สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนMedium of Exchange ยังงอกดอกผลได้ เหมือน ต้นไม้ ( ดอก-เบี้ย ภาษาละติน Usury ) นำไปฝากกับ ธนาคาร อยู่เฉยๆ ก็งอกดอก-เบี้ยออกมาตามที่ประกาศ หรือ ตกลงกัน ถ้าให้กู้ยืมไป ก็งอกดอกเบี้ยออกมา ตามที่ตกลงกัน ยิ่งนาน ไป จำนวนเงินก็เพิ่มขึ้นๆเพราะได้รับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นๆ ตามกาลเวลา Time Value of Money ก็คือ ค่าของเงินที่ตามเวลา จะมีมากขึ้นๆได้ในตัวเอง จาก 100 บาท หลายปีต่อมา ก็อาจเป็น 300 บาท ( เพราะสร้างดอกเบี้ย ผลตอบแทนได้โดยตัวเองตามกาลเวลา )
แต่ หลายๆร้อยปีมาแล้ว หลายๆพันปีมาแล้ว เงินทำหน้าที่เพียง ตัวกลางในการแลกเปลี่ยน Medium of Exchange เท่านั้น จะหาประโยชน์จากเงินเอง เป็นดอกผล ดอกเบี้ย ไม่ได้ ถือว่า เป็น บาป สิ่งชั่วร้าย Sin, Evil ถูกต้องห้ามทุกๆศาสนา ( นายธนาคาร วันนี้ อาจสดุ้ง บอกว่า อย่าล้อเล่น ไม่ดี ผมหรือ ดิฉัน หรือ ฮั้น กำลังทำหน้าที่สำคัญ เพื่อประเทศชาติ เพื่อเศรษฐกิจ และสังคมให้รุ่งเรือง )
(Exodus, 22:25)
If thou lend money to any of my people, even to the poor with thee, thou shalt not be to him as a creditor; neither shall ye lay upon him interest.
คริสต์ศาสนา ห้ามการคิดดอกเบี้ยจากเงินที่ให้กู้ยืม เพราะเท่ากับซ้ำเติม ผู้ที่เดือดร้อนลำบากอยู่แล้ว ภาพ พระเยซู ขับไล่ ผู้ให้กู้ นายธนาคาร ออกจากโบสถ์ ( ภาพบน ) มีเห็นมากมายหลายรูปแบบ หลายยุคสมัย แม้แต่ยุคโรมัน Aristotle ประนามว่า .. การให้กู้ยืมโดยคิดดอกเบี้ย ( Usury ) เป็นการสร้างความร่ำรวยที่ ถุกเกลียดชัง มากที่สุด….
ส่วน Cato the Elder นักปราช์ญโรมัน อีกท่าน ถึงกับด่าว่า
“what do you think of usury?" - "What do you think of murder?
..คิดอย่างไรกับการให้กู้ยืมโดยคิดดอกเบี้ยรึ ? .. คุณล่ะคิดยังไงกับการ ฆ่าคนล่ะ ?
( นี่ไม่ใช่การประชดประชัน แนวความคิด ว่า การคิดดอกเบี้ยหรือ หาประโยชน์จาก เงิน ซึ่งวัตถุประสงค์ใช้เพื่อการแลกเปลี่ยน สิ่งที่มีค่าเท่ากัน การนำเงินไปใช้ หาประโยชน์ให้ เงินมีค่าเพิ่มขึ้น งอกเงิยขึ้น มากกว่าที่ควรแลกเปลี่ยนได้เท่าเดียว คือค่าของเงินเดิม เป็นสิ่งชั่วร้าย Evil เอาเปรียบคดโกง เป็นความผิดตามกฎหมาย ศีลธรรม Moral Law )
ทำให้คิดขึ้นได้ถึงเรื่องราว ยิว ไชล้อค ใน เวนิส วานิช Merchant of Venice ถ้ายังจำกันได้ นายธนาคารผู้ให้กู้ยืมเงิน เป็นตัวผู้ร้าย ตัวโกง ที่ถูกเกลียดชัง ชิงชัง โดย เชคสเปียร์ ผู้เขียน และ ผู้อ่านทั้งโลก เพราะว่า ศาสนาทุกศาสนาห้ามการให้กู้ยืม คิดดอกเบี้ย ศาสนา ยิว ห้ามเหมือนกัน แต่เฉพาะคนในศาสนาเดียวกัน ให้กู้คนนอกศาสนายิวโดยคิดดอกเบี้ยได้ นอกจากนั้น ยิวเป็นเผ่าพันธ์ที่เหมือนถูกสาป คือ ถูกขับไล่เร่ร่อน กีดกัน จากทุกๆชาติไม่ให้ประกอบอาชีพหลักใดๆ ( ทำเกษตรกรรม การค้าพานิชย์ ฃ่างฝีมือ ฯลฯ ) ยิวจึงจำเป้นต้องหาทางอยู่รอดโดยทำอะไรที่ชาวบ้านเขาไม่ทำ ไม่ยอมทำ ไม่กล้าทำ เช่น อาชีพ นายธนาคารให้กู้ยืมเงิน เลยยิ่งซ้ำเติมให้ ยิวถูกเกลียดชัง ชิงชัง มากขึ้นๆตามที่ทราบกันดี ( จนสมัย ฮิตเล่อร์ ประทุออกมา นาซีฆ่าเพื่อล้างเผ่าพันธ์ยิว ในยุโรป มากกว่า 6 ล้านคน เกือบสูญพันธ์ยิวไปจริงๆ )
ศาสนาอิสลาม ประนามรุนแรงขนาดด่าว่า เป็นพวกลูกน้องปีศาจ ไปเลย
“Those who charge usury are in the same position as those controlled by the devil's influence..."
สิ่งที่น่าสนใจมากๆ ก็คือนักปราชญ์ นักวิขาการสมัยหลายพันปี เข้าใจเรื่องกาลเวลา Time และคุณค่าของกาลเวลากับเงิน TimeValue of Money เป็นอย่างดี
St. Thomas Aquinas รู้จักกันดีทั่วโลก ผู้นำทางวิชาการของ คริสต์จักร ย้ำความคิด อริสโตเติล ที่ว่า การหาประโยชน์จากเงิน เป็นความชั่วร้าย Evil ผิดกฎหมายศีลธรรม โดย ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า การอ้างว่า การคิดดอกเบี้ยได้ตามระยะเวลาที่ ผู้กู้ยืม ครอบครองนำเงินไปใช้ เพราะ ระยะเวลาที่ได้ใช้เงิน เป็นสิ่งมีค่า Time Have Value ก็ไม่ถูกต้องนัก
เพราะ เวลาไม่ใช่ สินค้าทั่วไป commodities ที่จะซื้อขายกันได้ ( เป็นของพระเจ้าที่สร้างขึ้นมา )
It is also to sell time since the usurer charges, in effect, for the time that the money is in the hands of the borrower. Time, however, is not a commodity that anyone can sell.
เท่ากับยอมรับว่า เวลามีค่า Time Value แต่เวลา เป็นของพระเจ้าไม่ควร ไม่สามารถ นำมาซื้อขายกันได้
ที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งปวง จากประวัตืศาสตร์ หลายๆ พันปี เพื่อบ่งบอกถึง ศาสนา ปรัชญา แนวความคิด ความเชื่อของมนุษย์ ที่ ห้ามการคิดดอกเบี้ย เพราะเป็นสิ่งเลวร้ายไม่ดี ที่มีมาเนิ่นนาน ตั้งแต่มีการสร้างเงิน Money ขึ้นมา( เพื่อเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน เท่านั้น )
ดังนั้น ในยุคสมัยที่ เงินใช้เป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น การ หาคุณค่า ประโยชน์จากการคิด ดอกเบี้ย ดอกผลทำไม่ได้ ผิดทั้งศีลธรรมอันดีงาม และ ผิดกฎหมายบ้านเมือง และเวลา ก็ซื้อขายไม่ได้เพราะเป็นของพระเจ้า ( เพื่อ ประโยชน์แก่ มนุษย์ ทั่วๆไป )
คุณค่าของเงินตามเวลา Time Value สำหรับ ชาวบ้าน มนุษย์โลกเพื่อการซื้อขาย หาประโยชน์ส่วนตน( ที่คนยิวกระทำ ) ก็จึงมีไม่ได้
คำกล่าว “ A Dollar today is worth more than a dollar in the future ! “ ก็ไม่อาจเป็นความจริง เงิน 100 บาท อีก 10 ปีก็ 100 บาท เพราะไม่มีอะไรจะงอกเงิยขึ้นมาได้ เองตามกาลเวลา !



ดอกเบี้ยเครดิตการ์ด การกรรโชก ทรัพย์วิธี ใหม่---
---ทำไมหนักเพิ่มขึ้นทุกวัน ?

Comments

Popular posts from this blog

Corporate, Corporation, Incorporated, Company ?

Principal -Agent Problem & Corporate Governance

The True Story of Enron 2