Basic Objective of the Blog & .Approach Focus UK

Basic Objective of The Blog

Blog นี้ สร้างขึ้น เพื่อประกอบการเรียนการสอน

วิชา กฎหมายเกี่ยวกับการเงินธุรกิจ Law Related to Business Finance -3400574 CU LLM ไม่ใช่ ให้เป็นตำราเรียน โดยตรง

1.Business Finance vs. Corporate Finance
ก่อน อื่นเลย เพื่อความเข้าใจตรงกัน ในเนื้อหาสาระวิชาที่จะเรียน และประโยชน์แก่การค้นคว้าหาความรู้ เราควรที่จะทำความเข้าใจเบื้องต้นในเรื่อง
แต่ เดิม ฝรั่งเอง คงเริ่ม ใช้คำ Business Finance ในความหมาย การเงินธุรกิจ ต่อๆมา กลับนิยมใช้ คำว่า Corporate Finance แทน ในความหมาย การเงินธุรกิจ ( แปลตรงๆ ก็คือ การเงินบริษัท ) เพราะ
(การทำ) ธุรกิจในความเข้าใจ ความหมาย สมัยใหม่ คือทำในรูปแบบ บริษัท จึงเป็นคำนิยมเจาะจงแทน คำว่า Business ( ซึ่งมีความหมายค่อนข้าง กว้าง มากๆ ) เป็นเรื่อง การใช้ คำ การใช้ ภาษา เช่นเดียวกับ Commerce ที่มักจะไม่เห็น วิชา Commerce โรงเรียน Commerce ในปัจจุบัน

จะเห็นได้จาก เช่น

-ตำราเรียน วิชาการเงินธุรกิจ ภาคภาษาอังกฤษ เกือบจะไม่มี ชื่อว่า Business Finance เลย ( เช่นลองหาดูใน Amazon.com ดูได้) มีแต่ตำรา ในชื่อของ Corporate Finance ทั้งสิ้น ตำราที่ดังๆ อาทิ

Corporate Finance by Stephen A. Ross, Randolph Westerfield, and Jeffrey Jaffe ;

Principles of Corporate Finance with S&P bind-in card by Richard Brealey, Stewart C. Myers, and Franklin Allen

ส่วน ตำราภาษาไทย ยังคงพบ ในชื่อเดิมๆ Business Finance ( ในเนื้อหาเดียวกัน ) เช่น การเงินธุรกิจ (BUSINESS FINANCE) ผู้แต่ง : ปิยสุดา บัณฑุรัตน์ และคณะ

การเงินธุรกิจ (ฉบับสมบูรณ์) (BUSINESS FINANCE) ผู้แต่ง : ฐาปนา ฉิ่นไพศาล

- หลักสูตร บริหารธุรกิจ MBA ชื่อ วิชา Business Finance ก็จะไม่เห็นมีแล้ว มีแต่ Corporate Finance เช่น Corporate Finance: Strategies for Creating Shareholder Value - Kellogg School of Management ; Corporate Financial Management - Harvard Business School ;
Corporate Finance - London Business School of Business

- หลักสูตร วิชา กฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินธุรกิจ ก็จะใช้คำว่า Corporate Finance เช่น The Law of Corporate Finance and Financial Markets - Sloan School of Management MIT ;
Corporate Finance Law –Cambridge LLM

- ที่สำคัญมากๆ ก็คือ ตำรา กฎหมายเกี่ยวกับการเงินธุรกิจ จะใช้ชื่อ ใน คำว่า Corporate Finance ทั้งสิ้น เช่น

Principles of Corporate Finance Law by Eilís Ferran ;

Law and Corporate Finance (Elgar Financial Law) by Frank B. Cross and Robert A. Prentice ;

Corporate Finance Law: Principles and Policy by Louise Gullifer and Jennifer Payne

จะไปเที่ยวหา ตำรา หรือ หนังสือ ในชื่อ ทำนอง Business Finance Law หรือ Law Related to Business Finance ก็จะหาไม่เจอเอาเลย( เดี๋ยวจะหาว่า ทำไมไม่บอก )

2. Approach Focus UK
หลักสูตร โรงเรียนกฎหมาย ของ สหรัฐอเมริกา และ ของ อังกฤษ เน้นเนื้อหาสาระ Focus หรือ Approach ต่างกัน พอสมควรทีเดียว สำหรับการเรียนการสอน วิชา นี้

เริ่มตั้งแต่ชื่อ โรงเรียนกฎหมายของอังกฤษ ใช้ชื่อในแนว ว่า Corporate Finance Law เช่น
Cambridge , Corporate Finance Law (LL.M.)

Oxford BCL - M Jur วิชา Corporate Finance Law

และเนื้อหาจะ focus เน้นเนื้อหาสาระ เรื่องกฎหมายเป็นหลัก เช่น ที่ Oxford

(a)เพื่อให้เข้าใจถึง บทบัญญัติทางกฎหมาย ที่ซับซ้อน ในเรื่อง หลักทรัพย์ ... to explain the complex statutory provisions governing the issue and marketing of corporate securities, agains tthe background of business transactions
(b)เพื่อสำรวจ (ทำความเข้าใจ) พื้นฐานทางกฎหมายที่ การตกลงการค้าการเงินธุรกิจ กระทำกัน to explore the fundamental legal propositions around which corporate finance transactions are usually organised and
(c) เพื่อเข้าใจ วิธีการ ระดมเงินโดยการกู้ยืมหรือ กึ่งกู้ยืม และวิธีต่างๆในการ ประกันเงินกู้ยืม
to examine the means by which money is raised by borrowing and quasi-debt and different methods of securing debt obligations.

แต่ถ้าลองสังเกตุกลุ่มผู้เรียนที่เป็นเป้าหมาย
-นักเรียนกฎหมายที่จะพัฒนาความรู้ทางการเงินรวมไปถึงผู้เรียนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน (อยู่แล้ว )
student wishing to develop a knowledge of corporate law, as well as to those who are corporate finance specialists. !

ก็จะพอเข้าใจว่าผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย ควรต้อง เป็น ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหรือมีความรู้ทางการเงินมากอยู่
แล้ว แล้วไปเพิ่มความรู้ หรือ แง่มุมทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ปริญญาโทกฎหมาย Oxford หลักสูตร MSc. (Master's in Law and Finance)
ใช้วิธีของ โรงเรียนกฎหมายในสหรัฐ ( ที่จะกล่าวต่อไป ) คือ เรียน วิชา Finance I และ Finance II
เน้นเนื้อหาทาง การเงิน( ธุรกิจ) สนในรายละเอียดกดดูได้ที่ Oxford MSC ( Law and Finance )

ส่วนของมหาวิทยาลัย Cambridge , วิชา Corporate Finance Law (LL.M.)

คล้ายๆกันกับ หลักสูตร Oxford BCL - M Jur คือว่าด้วย

1. ความรู้เบื้องต้น โครงสร้าง บริษัท หลักทรัพย์บริษัท และแหล่งของเงินIntroduction: Corporate structures, corporate securities and sources of corporate finance.
2. เงินทุนตามกฎหมาย ..เงินปันผล . Legal Capital: Share allotments. Maintenance and reduction of capital. Dividends and distributions. Financial assistance. Share buy backs. Class rights. Reform options.
3. การกู้ยืมเงิน เงื่อนไขในสัญญากู้ยืม ประเภทหลักประกัน..Debt Finance: Types of debt. Covenants and other terms in loan agreements. Secured debt. Fixed and floating charges. Registration and priority. Subordinated debt.
4. การระดมทุนจากตลากหลักทรัพย์ กฎหมายกฎเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องRaising finance from securities markets: Types of public issues of securities. Regulation of public issues of securities (UK, EU and international).

ผู้สอนอธิบายว่า Corporate Finance Course, which in a sense is a combination of 1) company law, 2)capital markets law and 3) personal property law ทำให้พอเข้าใจว่า ผู้สอนต้องการ focus เรื่องอะไร
ส่วนกลุ่มเป้าหมายคือ LLM Students ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ควรมีพื้นฐาน ประสบการ์ณอย่างไร แต่น่าจะต้องมีพื้นความรู้ การเงินมากพอควร เช่นกันกับของ Oxford
ส่วนของสถาบัน London School of Economics ที่โด่งดัง คล้ายกันหลักสูตร LLM ชื่อวิชา Law of Corporate Finance แยกเป็น 2 วิชา A และ B ( ต้องการทราบรายละเอียดกดดูได้)

ค่อยข้างชัดเจนว่าวิธีการเรียนการสอน ของอังกฤษ สำหรับ ปริญญาโท กฎหมาย วิชานี้ โดยทั้วไปไม่เน้นเนื้อหาของ วิชาการ ทางการเงินธุรกิจ Corporate Finance ที่ นักเรียน MBA หรือ นักการเงิน นักบริหารธุรกิจ ต้องเรียน กันเป็นปีๆ มากนัก ( ตามเหตุผลข้อเท็จจริงข้างต้น )และจะแตกต่างกับวิธีการเรียนของ
โรงเรียนกฎหมายในสหรัฐอเมริกา